สิ่งที่คนประสบความสำเร็จทำ ก่อนเวลาอาหารเช้า
ช่วงเวลาเช้าคือช่วงเวลาที่สมองมีความปลอดโปร่งหลังจากที่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่ใช้ในการทำสิ่งที่สำคัญสำหรับร่างกาย จิตใจ รวมไปถึงการคิดวิเคราะห์ วางแผนงานต่างๆ
แต่เวลาเช้าเป็นเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ไหนจะต้องเตรียมตัวออกจากบ้าน ฝ่ารถติด คนแน่นใน BTS หรือ กองเอกสาร อีเมลที่รอการสะสางเมื่อเริ่มทำงาน เราจะปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้อย่างไร
Laura Vanderkam ผู้เขียน What The Most Successful People Do Before Breakfast ที่สนใจด้านการบริหารจัดการเวลา เธอมีโอกาสได้ศึกษาวิจัยปฏิทินและตารางงานหลายร้อยชิ้นของคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งหลาย ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอสรุปออกมาได้เป็น บันได 5 ขั้น สู่นิสัยตอนเช้าแบบคนประสบความสำเร็จ
ก่อนที่จะเริ่มปรับเปลี่ยนนิสัย ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า เราใช้เวลาในการทำอะไรตอนนี้! สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก วิธีที่ได้ผลชงัดคือการจดสิ่งที่เรากินตลอดทั้งวัน เป็นการสร้างกรอบเพื่อให้เรามีสติกับสิ่งที่ทำมากขึ้น เรื่องเวลาก็เช่นกัน คุณควรจะเริ่มจดสิ่งที่ทำในตอนเช้า จดลงสมุดโน๊ตเล็กๆ หรือใช้แอพในมือถือก็สะดวกสำหรับคนยุคใหม่
หลังจากนั้นก็รวบรวมมาดูกันทั้งสัปดาห์ ว่าเราใช้เวลาในช่วงเช้าไปกับอะไรบ้าง เช่น เราอาจจะพบว่าเราใช้เวลาเกือบทั้งหมดไปกับการนอน เล่นมือถือ หรือ นั่งดูคนเล่าข่าวในทีวี เราอาจพบว่าเราสามารถเตรียมงานเล็กๆ น้อยๆ ไปทำบนรถ หรือ แทนที่จะเป็นเวลาแห่งข่าวสารเบาๆ หรือความบันเทิง เราสามารถใช้เวลานั้นเพื่อเรียนภาษาเพิ่มเติมไประหว่างขับรถได้สบายๆ
หลายคนอาจพบว่า ไม่สามารถตื่นเช้า หรือรู้สึกไม่สดชื่นเพราะนอนหลับไม่เพียงพอ เราควรนอนหลับให้เร็วขึ้น จากสถิติ คนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในเวลากลางคืน หากว่าเราต้องการดูรายการทีวีดึกๆ ก็เปลี่ยนมาเปิดย้อนหลังตอนคุณกำลังออกกำลังกายตอนเช้าแทน
2 จินตนาการเวลา Picture The Perfect Morning
ขั้นต่อมา เรามาลองจินตนาการว่า เวลาเช้าที่เพอร์เฟคท์ที่สุดของเราควรเป็นอย่างไร สำหรับ Laura การเริ่มวันด้วยการวิ่งออกกำลัง ต่อด้วยทานอาหารเช้าพร้อมกันทั้งครอบครัว หลังจากเด็กไปโรงเรียนและสามีออกไปทำงาน ก็จะโฟกัสไปที่งานหนังสือ และนี่ก็คือตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ เพื่อเป็นไอเดียสำหรับคุณ
- วางแผน : “แบบใกล้” จดใส่กระดาษว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง ซื่อสัตย์กับตัวเอง ตั้งเป้าที่เป็นไปได้ แล้วก็ทำตามนั้นวันต่อวัน “แบบไกล” ก็มองภาพเกี่ยวกับชีวิตและงานในหนึ่งปีนี้
- ติดตามข่าวสาร : ติดตามข่าวสารจากช่องทางที่มีประโยชน์ อ่านบทความหรือนิตยสาร ซึ่งควรจะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาตัวเอง หน้าที่การงาน หรือให้แง่มุมกับการพัฒนาชีวิต เพื่อต่อยอกความคิดหรือเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาใหม่ๆ การติดตามข่าวบน Facebook อาจทำให้เราหลงประเด็นหรือเสียเวลากับข่าวเล่า ข่าวลือ มากกว่าข่าวจริง
- ฝึกฝนตัวเอง : เราอาจตั้งเป้าว่าจะวิ่งมาราธอนให้ได้ในปีนี้ มีสติกับตัวเองมากขึ้นโดยฝึกนั่งสมาธิในตอนเช้า หรือ ฝึกภาษาใหม่ๆ ทั้งนควรเป็นเป้าที่เห็นผลในระยะยาวและมีกำหนดเวลาที่ชัดเจน เช่น 1 สัปดาห์ หรือ 1 ปี หรือสมัครเรียนคอร์สออนไลน์ที่มีให้เลือกมากมายในปัจจุบัน
3 สมดุลเวลา Think Through the Logistics
เราจะทำอย่างไรให้สิ่งที่เราจินตนากาารนั้นเป็นจริง ถ้าหากว่าจะต้องเพิ่มรายการทั้งหมดทั้งปวงลงไปในตารางเวลาเช้าที่แสนจะคับแคบอยู่แล้ว ลองมาดูดีๆ ว่านิสัยไม่ดีอะไรที่เราควรตัดออก เวลาไหนควรเข้านอน เวลาไหนควรตื่นเพื่อให้ได้เวลานอนที่พอเพียง จะตั้งนาฬิกาปลุกอย่างไรให้เราตื่นนอนได้อย่างที่คิดไว้
หลักจากที่ตั้งเป้าอย่างมุ่งมั่นแล้ว ไม่กี่วันถัดมาคุณอาจจะมีข้ออ้างที่จะทำให้คุณผลัดวันประกันพรุ่ง การวางแผนและความมุ่งมั่นที่พอเหมาะ คือสิ่งที่คุณจะต้องปรับไปในระหว่างทาง
4 สร้างสมนิสัย Build the Habit
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เป็นการเปลี่ยนจากความมุ่งมั่นไปสู่นิสัย ทำตาม 5 ข้อต่อไปนี้
- ปรับอย่างแช่มช้า : เข้านอนและตืนนอนเร็วขึ้นทีละ 15 นาที จนปรับเข้าสู่เวลาที่ตั้งใจไว้
- ประคับประคอง : การปรับเปลี่ยนนิสัยเป็นเรื่องยากและต้องใช้พลังกาย พลังใจสูง ดูแลตัวเองให้ดี กินอาหารที่มีประโยชน์ ดินให้พอดี และอยู่ใกล้ๆ คนที่คิดบวกและอยากให้คุณทำสำเร็จ
- ทำทีละอย่าง : เลือกเพิ่มทีละอย่าง เช่น ถ้าอยากจะว่างออกกำลังตอนเช้า อ่านหนังสือ และ ทำอาหารเช้าทานเอง ก็ให้เลือกเพิ่มไปทีละอย่างจนครบ
- ติดตามผล : การสร้างนิสัยหนึ่งๆ ใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะเข้าที่ เราจึงควรจดบันทึก ติดตามว่าเราได้พัฒนาไปถึงไหนแล้ว อย่างน้อยเป็นรายเดือน ถ้าหากคุณทำให้เป็นนิสัยได้เหมือนการแปรงฟันก่อนนอน เมื่อนั้นคุณก็จะเป็นคนใหม่ได้ไม่ยาก
- สร้างแรงจูงใจ : การตั้งเป้าหมายเล็กๆ น้อยเพื่อให้เกิดความท้าทายหรือเพลิดเพลินก็จะส่งผลให้การปรับปรุงนิสัยในตอนเช้าของคุณไม่น่าเบื่อหรือเคร่งเครียดจนเกินไป รองเท้าคู่ใหม่ หรือ ตั๋วคอนเสิร์ต ก็สามารถเป็นรางวัลเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการเริ่มสร้างเส้นชัยของคุณเอง เพื่อให้เวลาเช้าเป็นช่วงเวลาโปรดของคุณในทุกวัน
5 ปรับเปลี่ยนระหว่างทาง Tune Up as Necessary
แน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไป ชีวิตเปลี่ยน เป้าหมายก็เปลี่ยนตาม บางครั้งเราอาจจะต้องเพิ่ม ลด จัดกลุ่มกันใหม่ เพื่อให้ทุกวันนั้นเต็มไปด้วยคำว่า “เป็นไปได้”
ความพิเศษของเวลาเช้าคือ เป็นช่วงเวลาที่เรารู้สึกได้ถึงการเริ่มใหม่หรือโอกาสที่จะทำให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวาน เวลาเช้าก่อนทานอาหารจึงเป็นเวลาที่สำคัญเกินกว่าจะปล่อยให้ผ่านไปแบบขาดสติและแผนการ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราบอกกับตัวเองว่าเราไม่มีเวลาที่จะทำ… เราสามารถบอกกับตัวเองว่า ถ้าเราตื่นได้เช้ากว่านี้ สิ่งนั้นก็น่าจะ “เป็นไปได้”
เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คุณคิดว่าคุณอยากจะใช้เวลาเช้าของคุณแบบไหน? อาจจะให้เวลาตัวเองในการคิด ทบทวน และตัดสินใจ การสร้างนิสัยในเวลาเช้า เมื่อเริ่มลงตัวก็จะส่งผลไปถึงเวลาในช่วงอื่นๆ ของวันด้วยเช่นกัน และก็จะส่งผลไปสู่ชีวิตในภาพรวมในที่สุด
วันนี้ผมว่าจะเข้านอนให้เร็วขึ้น 15 นาที แล้วล่ะ…
เนื้อหา FastCompany
เขียนโดย Laura Vanderkam
แปลและเรียบเรียงโดย ฐิติพงษ์ เหลืองอรุณเลิศ ผู้ก่อตั้ง บุญมีแล็บ และ Wityu.fm
ภาพจาก Flickr Common
1 George Eastman House
2 Sean MacEntee
3 Total Due
4 O.Viera
5 Mychkine
5 Corey Seeman